สารจากประธานกรรมการบริษัท
เรียน ท่านผู้ถือหุ้น
ปี 2564 ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับวิกฤติการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาพยาบาลและมีผู้เสียชีวิตเป็นจํานวนมาก ส่งผลให้ภาครัฐยกระดับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน และเร่งฉีดวัคซีนเพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
ปี 2564 ที่ผ่านมานับว่าประเทศไทยประสบกับวิกฤติการณ์ ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหญ่โดยมีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาพยาบาลและมีผู้เสียชีวิตเป็นจํานวนมาก ส่งผลให้ภาครัฐประกาศยกระดับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน และเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยบริษัทและโรงพยาบาลในเครือได้ร่วมให้บริการทางการแพทย์เพื่อเยียวยาสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 อย่างเต็มกําลัง อาทิ การตรวจคัดกรอง การกักกัน การรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนป้องกันโรค โดยที่ผ่านมาบริษัทและโรงพยาบาลในเครือยังคงเข้าร่วมกับภาครัฐในการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกสําหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พร้อมทั้งขยายความสามารถในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโดยเพิ่มจํานวนเตียงสําหรับหอผู้ป่วยแยกโรคภายในสถานพยาบาล พร้อมเพิ่มจํานวนเตียงในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) และร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ ท้องถิ่นเพื่อให้บริการเตียงสนาม
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดดําเนินการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 115 เตียง ตั้งอยู่ที่อําเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่คนไข้ทั่วไปและคนไข้ภายใต้โครงการประกันสังคม และเปิดดําเนินการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 110 เตียง ตั้งอยู่ที่นครหลวง เวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่คนไข้ท้องถิ่นชาวลาวและคนไข้ชาวต่างชาติในพื้นที่
ผลการดําเนินงานที่ผ่านมาในปี 2564 ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รายได้และกําไรสุทธิของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 21,529.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138.83 กําไรสุทธิเท่ากับ 6,846.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 456.86 โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการให้บริการภาคปกติ ควบคู่กับการร่วมกับภาครัฐในการให้บริการทางการแพทย์ ที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 อย่างเต็มกําลัง อีกทั้ง บริษัทยังคงดําเนินนโยบายบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานเพื่อดํารงผลการดําเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการดําเนินกิจกรรมทางธุรกิจแล้ว บริษัทยังคงมุ่งมั่นยกระดับการกํากับดูแลกิจการที่ดีควบคู่กับการยกระดับ อันดับความน่าเชื่อถือองค์กร โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการปรับเพิ่มระดับการกํากับดูแลกิจการที่ดีจากระดับ “ดี” เป็น “ดีมาก” จาก สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรจาก “A-” เป็น “A” โดยมีแนวโน้ม “คงที่” จาก ทริสเรตติ้ง ในส่วนของความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีผลการดําเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลจากการประเมินโดยสถาบันไทยพัฒน์
ในนาม บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จํากัด (มหาชน) ผมใคร่ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ผู้ใช้บริการ สถาบันการเงิน หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจทุกท่าน สําหรับความไว้วางใจและให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา ตลอดจนขอขอบคุณคณะแพทย์ พยาบาล และพนักงานทุกท่านสําหรับความทุ่มเทและเป็นกําลังสําคัญในการพัฒนาองค์กร
ทั้งนี้ บริษัท จะมุ่งมั่นทุ่มเทในการดําเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการสร้างคุณค่าในระยะยาว ด้วยความเป็นธรรม ภายใต้หลักการกํากับดูแลกิจการ ที่ดีตลอดไป