ในปี 2567 บริษัทเปิดให้บริการคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมรังสีรักษา เกษมราษฎร์ อารี (KARI) แห่งแรกในจังหวัดนนทบุรี ให้บริการด้านรังสีรักษาครบวงจร ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยตลอดกระบวนการรักษา ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001:2015 สะท้อนให้เห็นถึงระบบการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล

ผศ.ดร.พญ.สมพร หาญพาณิชย์
ประธานกรรมการบริษัท
ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

พัฒนาเทคโนโลยีในการรักษาและขยายพื้นที่ให้บริการ

ปี 2567 ประชาชนมีแนวโน้มในการดูแลและป้องกันรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเน้นการตรวจสุขภาพประจำปีแบบองค์รวมและปรับเปลี่ยนวิถีชิวิตให้มีสุขภาพยืนยาว นอกจากนั้น การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ ๆ จะเป็นส่วนช่วยให้แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น โดย BCH ได้เริ่มเปิดดำเนินการคลินิกเฉพาะทางมะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์ อารี ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ด้านการให้บริการด้านรังสีรักษา โดยนำเครื่องฉายรังสีที่ใช้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงมาให้บริการ เพื่อเพิ่มความสำเร็จในการรักษาและลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย ซึ่งในระยะแรก BCH จะให้บริการรักษาผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม เพื่อลดต้นทุนการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลนอกเครือ และขยายการให้บริการแก่ผู้ป่วยสิทธิอื่นในระยะถัดไป นอกจากนั้น BCH ได้ร่วมมือกับบริษัทและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในการออกหน่วยตรวจสุขภาพประจำปีแบบเคลื่อนที่ เพื่อค้นหาความเสี่ยงหรือความผิดปกติในร่างกายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะสามารถป้องกันระดับความรุนแรงของโรคและเข้ารับการรักษาในทันท่วงที และเพื่อสนับสนุนการให้บริการตรวจสุขภาพแบบเคลื่อนที่ให้ครบวงจรนั้น BCH ยังได้เริ่มดำเนินการให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดระยอง เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการทันตกรรมแก่ผู้ป่วยและครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา

ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ

สำหรับโรงพยาบาลในเครือเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์ชั่นแนล โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล และโรงพยาบาลการุญเวช ทั้ง 15 แห่ง และโพลิคลินิก 2 แห่ง ได้มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเพิ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง อาทิ ศูนย์ WMC New frontier cancer center รองรับการรักษามะเร็งแบบผสมผสาน ศูนย์หัวใจครบวงจรและรับส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดใกล้เคียง ศูนย์ศัลยกรรมความงามเกษมราษฎร์ พลาสติก เซอร์เจอรี่ (Kasemrad Plastic Surgery : KPS) การปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลให้สามารถบริหารพื้นที่ได้มีประสิทธิภาพ และดึงดูดผู้ป่วยกลุ่มใหม่ในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปทุมธานี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค โดยในปี 2567 BCH มีจำนวนห้องตรวจพร้อมให้บริการผู้ป่วยทั้งสิ้น 684 ห้องตรวจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 และจำนวนเตียงจดทะเบียน 2,323 เตียง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมั่นคง

แม้ว่าในปี 2567 BCH จะได้รับผลกระทบเชิงลบของรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะผู้ป่วยคูเวตที่ชะลอการเข้ารับการรักษา รวมไปถึงการปรับลดรายได้ค่าบริการกลุ่มผู้ป่วยโรคซับซ้อน (RW>2) ของผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม BCH ยังสามารถรายงานรายได้รวม จำนวน 11,832.4 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการให้บริการผู้ป่วยนอกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะผู้ป่วย CLMV1 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ส่วนหนึ่งมาจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการ ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แม่สาย ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ติดพรมแดนไทย-เมียนม่าร์ โดยบริษัทรายงานกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 2,708.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ (6.7) เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ร้อยละ 22.9 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทเท่ากับ 1,282.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ (8.8) เมื่อเทียบกับปีก่อน และบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 10.8 โดยหากไม่รวมรายการปรับปรุงดังกล่าว บริษัทจะรายงานกำไรสุทธิที่ 1,411.3 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 11.7 ใกล้เคียงกับปีก่อน

ดำเนินธุรกิจโปร่งใส สร้างคุณค่าที่ยั่งยืน

นอกเหนือจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจแล้ว บริษัทยึดมั่นในการดำเนินงานภายใต้การบริหารที่คำนึงถึงประเด็นด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน โดย BCH มุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในทุกมิติ อาทิ การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และพนักงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งภายในองค์กร โดยบริษัทได้รับการยกย่องจากหลายองค์กรชั้นนำในด้านความยั่งยืนและการกำกับดูแลกิจการ โดยได้รับการจัดอันดับ SET ESG Rating ระดับ “AA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai CAC) การรับรองการกำกับดูแลกิจการระดับ “ดีเลิศ” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) การได้รับผลการประเมิน 100% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมผู้ถือหุ้น และการจัดอันดับหลักทรัพย์ที่ดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จากสถาบันไทยพัฒน์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการรับรองอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ “A” แนวโน้ม “คงที่” จากทริสเรตติ้ง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายนี้ ในนาม บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการบริษัทใคร่ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ผู้ใช้บริการ สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจทุกท่าน สำหรับความไว้วางใจและให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา ทั้งนี้ บริษัทจะมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการสร้างคุณค่าในระยะยาว ด้วยความเป็นธรรมภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีตลอดไป

หมายเหตุ : 1 ผู้ป่วย CLMV = ผู้ป่วยในกลุ่มประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม